ไขมันอิ่มตัว vs ไขมันไม่อิ่มตัว
ไขมันอิ่มตัว (Saturated fat) และไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated fat) เป็นสารอาหารที่ได้จากอาหารไขมันเช่นเดียวกัน แต่มีสารประกอบทางเคมีต่างกัน จึงทำให้มีคุณสมบัติทางด้านสุขภาพที่ต่างกัน
-ไขมันอิ่มตัว อาจเรียกง่ายๆว่า ไขมันไม่ดี มักเป็นไขมันจากสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น ไขมันสัตว์ ไขมันที่แทรกในเนื้อสัตว์ นม เนย ไขมันกลุ่มนี้รวม ไขมันคอเลสเตอรอล และไขมันไตรกลีเซรายด์ ไขมันอิ่มตัวจะมีลักษณะเป็นของแข็งที่อุณภูมิห้อง
ไขมันอิ่มตัว เมื่อบริโภคในปริมาณมาก มักไปสะสมในเซลล์ไขมันทั่วร่างกาย ก่อ ให้เกิดโรคอ้วนนอกจากนั้นมักจะจับที่ผนังหลอดเลือดแดง ก่อให้เกิดโรคหลอดเลือดแดงแข็ง ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของ โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง แต่อย่างไรก็ตาม ไขมันชนิดนี้ก็ยังจำเป็นต่อร่างกายในการเจริญเติบโตของเซลล์ต่างๆ เช่น เซลล์สมอง เซลล์กระ ดูก เซลล์ผิวหนัง และยังเป็นส่วนประกอบในสารสำคัญต่างๆของร่างกาย เช่น ฮอร์โมนต่างๆ ดัง นั้น ไขมันชนิดนี้จึงยังจำเป็นต่อร่างกาย เพียงแต่ในปริมาณที่ต้องจำกัด
-ไขมันไม่อิ่มตัว (แบ่งเป็นประเภทเชิงเดี่ยวและเชิงซ้อน) อาจเรียกง่ายๆว่า ไขมันดี มักเป็นไขมันที่ได้จากพืช ไม่มีผักและผลไม้ชนิดใดมีคอเลสเตอรอล ยกเว้นจากพืชบางชนิด เช่น กะทิ และน้ำมันปาล์ม ไขมันชนิดนี้ มีผลต่อโรคอ้วนและต่อโรคหลอดเลือดแดงแข็งน้อยกว่าไขมันอิ่มตัว ไขมันไม่อิ่มตัวนั้นจะมีสถานะเป็นของเหลวที่อุณหภูมิห้อง
อย่างไรก็ตาม ในอาหาร ไขมันทั้งจากพืชและสัตว์ จะประกอบด้วยไขมันทั้ง 2 ชนิดนี้เสมอ เพียงแต่ในสัดส่วนที่ต่างกัน และไขมันทั้ง 2 ชนิดก็ยังมีความจำเป็นต่อร่างกาย ดังนั้น ใน ทางการแพทย์ จึงแนะนำการจำกัดไขมันทั้ง 2 ชนิดรวมกัน ในการบริโภคอาหารไม่ให้เกิน 30% ของพลังงานที่ร่างกายได้รับทั้งหมดต่อวัน แต่ให้จำกัดไขมันชนิดอิ่มตัวให้มากที่สุด
ถึงแม้ว่าอาหารบางชนิดจะไม่มีคอเลสเตอรอล แต่ไม่ได้หมายความว่าอาหารนั้นจะไม่มีไขมัน เช่น อโวคาโด เป็นอาหารที่ไม่คอเลสเตอรอลก็จริง แต่ก็ให้ไขมันกับคุณได้ถึง 30 กรัมเลยทีเดียว!!
ที่มา: 1.ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์
วว.รังสีรักษา และเวชศาสตร์นิวเคลียร
2.VITAMIN BIBLE